Trace Id is missing
ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก
Sustainability

พลังงานแสงอาทิตย์เพื่อความยั่งยืน

พลังงานแสงอาทิตย์เป็นแหล่งพลังงานที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม เรียนรู้ว่าแสงอาทิตย์ทําอะไรได้บ้างเพื่อจ่ายพลังงาน และเพื่อช่วยรักษาโลกใบนี้

พลังงานแสงอาทิตย์คืออะไร

พลังงานแสงอาทิตย์คือพลังงานที่มาจากดวงอาทิตย์ ความร้อนและแสงจากพระอาทิตย์ถูกควบคุมและนำไปใช้เพื่อสร้างพลังงานไฟฟ้าหรือพลังงานความร้อนสําหรับบ้าน ธุรกิจ และความต้องการด้านการดําเนินงานอื่นๆ มากมาย ผลลัพธ์ของระบบพลังงานแสงอาทิตย์วัดเป็นหน่วยวัตต์

พลังงานแสงอาทิตย์ หรือที่เรียกว่าการสร้างพลังงานแสงอาทิตย์หรือรังสีจากดวงอาทิตย์ เป็นแหล่ง  พลังงานหมุนเวียนที่อุดมสมบูรณ์มากที่สุด แหล่งพลังงานหมุนเวียนเป็นแหล่งพลังงานที่สามารถสร้างใหม่ได้ แหล่งพลังงานนี้จะไม่หมดไปหลังจากใช้งานไปหนึ่งครั้ง ซึ่งต่างจากเชื้อเพลิงฟอสซิล (น้ำมัน ก๊าซธรรมชาติ และถ่านหิน) นอกจากนี้ พลังงานลม พลังงานน้ำ และพลังงานความร้อนใต้พิภพก็ยังถือพลังงานหมุนเวียนอีกรูปแบบหนึ่งด้วย

แต่คุณอาจแปลกใจที่ได้รู้ว่าเทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์ไม่ใช่การค้นพบในยุคใหม่ ผู้คนใช้พลังงานแสงอาทิตย์มาตั้งแต่ศตวรรษที่ 7  เมื่อมนุษย์ใช้แว่นขยายและแสงอาทิตย์เพื่อจุดไฟและเผามด แน่นอนว่าตั้งแต่นั้น ก็มีการพัฒนาสําคัญๆ และความก้าวหน้ามากมายในเทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์

ดูภาพรวมโดยสังเขปและลำดับเวลาของพลังงานแสงอาทิตย์ด้านล่างนี้ จากกระทรวงพลังงานสหรัฐอเมริกา:

  • ในปี 1767 นักวิทยาศาสตร์ชาวสวิตเซอร์แลนด์ Horace de Saussure ได้สร้างตัวเก็บรวบรวมพลังงานแสงอาทิตย์ตัวแรกของโลกขึ้น
  • Edmond Becquerel นักฟิสิกส์ชาวฝรั่งเศส ได้ค้นพบปรากฏการณ์โฟโตวอลเทอิก ที่พลังงานแสงหรือพลังงานส่องสว่างสร้างกระแสไฟฟ้าหรือแรงดันไฟฟ้า ในปี 1839
  • หลายทศวรรษต่อมา Augustin Mouchot นักคณิตศาสตร์ชาวฝรั่งเศส ได้จดทะเบียนสิทธิบัตรสําหรับกลไกขับเคลื่อนด้วยพลังงานแสงอาทิตย์
  • ในปี 1883 นักประดิษฐ์ชาวนิวยอร์ก Charles Fritts ได้สร้างโซลาร์เซลล์ขึ้นมา โดยการเคลือบซีลีเนียมด้วยชั้นทองบางๆ ที่มีอัตราการแปลงพลังงาน 1 ถึง 2 เปอร์เซ็นต์ (ข้อมูลอ้างอิง: โซลาร์เซลล์สมัยใหม่ส่วนใหญ่จะทํางานในอัตราระหว่าง 15 ถึง 20 เปอร์เซ็นต์)  ตามนิตยสาร Smithsonian นักประดิษฐ์นามว่า Edward Weston ได้จดสิทธิบัตรสองรายการสําหรับโซลาร์เซลล์ในอีกห้าปีต่อมา
  • Albert Einstein ได้เผยแพร่เอกสารเกี่ยวกับปรากฏการณ์โฟโตวอลเทอิกในช่วงต้นศตวรรษที่ 19
  • ในปี 1954 Bell Telephone Laboratories ได้ผลิตโซลาร์เซลล์ซิลิคอน ซึ่งเป็นเซลล์แรกที่สามารถแปลงพลังงานให้เพียงพอสำหรับใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าแบบวันต่อวันได้ โดยมีประสิทธิภาพอยู่ที่ 4 เปอร์เซ็นต์ (และต่อมากลายเป็น 11 เปอร์เซ็นต์) หกปีต่อมา Hoffman Electronics ก็ทำได้ถึง 14 เปอร์เซ็นต์
  • ในช่วงปี 1970 ดร. Elliot Berman ได้ออกแบบโซลาร์เซลล์ที่มีราคาไม่แพง ซึ่งส่งผลให้ราคาลดลงเหลือ 20 ดอลลาร์สหรัฐฯ
  • Paul MacCready ได้สร้างเครื่องบินที่ขับเคลื่อนด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ (เครื่องแรกของโลก) ที่มีโซลาร์เซลล์ 16,000 แผ่น และบินจากฝรั่งเศสไปยังอังกฤษในปี 1981
  • ในปี 1998 นักวิทยาศาสตร์นามว่า Subhendu Guha ได้นําวิธีการคิดค้นหลังคาพลังแสงอาทิตย์ที่ยืดหยุ่น ซึ่งเปลี่ยนแสงอาทิตย์เป็นไฟฟ้าสําหรับติดตั้งบนหลังคา
  • ในช่วงทศวรรษที่ 2000 เป็นต้นมา มีการก้าวหน้าที่ยอดเยี่ยมเกิดขึ้นมากมายเกี่ยวกับความสามารถและประสิทธิภาพของเทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์นี้

 

ปัจจุบัน “พลังงานแสงอาทิตย์คือแหล่งไฟฟ้าใหม่ที่เติบโตเร็วที่สุดและราคาย่อมเยาที่สุด” ในสหรัฐอเมริกา  ตาม Energy.gov โดยมีติดตั้งถึง 3 ล้านเครื่องในประเทศ และทั่วโลกก็มีการใช้งานพลังงานแสงอาทิตย์เพิ่มขึ้นเช่นกัน สําหรับทั้งการใช้งานที่บ้านและในอุตสาหกรรม

ตัวอย่างยอดนิยมในชีวิตประจําวันของการใช้พลังงานแสงอาทิตย์คือแผงโซลาร์สีดํารูปทรงสี่เหลี่ยมผืนผ้าที่คุณเห็นอยู่บนหลังคาบ้านบางแห่ง หลายๆ บริษัทได้เปิดรับการสร้างพลังงานแสงอาทิตย์รูปแบบนี้เช่นกัน แม้แต่ Disney World ก็มีศูนย์พลังงานแสงอาทิตย์รูป Mickey Mouse ที่ประกอบขึ้นจากแผงโซลาร์ถึง 48,000 แผง นอกสวนสนุก Epcot

เทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์มีการพัฒนาและการปรับปรุงอย่างต่อเนื่องในช่วงหลายปีที่ผ่านมา บทความนี้จะแสดงภาพรวมเกี่ยวกับพลังงานแสงอาทิตย์ วิธีการทํางาน ข้อดีในการใช้งาน และอนาคตของพลังงานแสงอาทิตย์

รวบรวมและจัดเก็บพลังงานแสงอาทิตย์อย่างไร

พลังงานแสงอาทิตย์ หรือว่าง่ายๆ ก็คือแสงอาทิตย์ จะถูกรวบรวมและจัดเก็บโดยใช้วิธีการที่แตกต่างกันไปสองสามวิธี รายละเอียดของกระบวนการและส่วนประกอบต่างๆ ที่เกี่ยวข้องกับแต่ละขั้นตอนในการรวบรวมและจัดเก็บ มีดังนี้ อย่างแรก เทคโนโลยีหลักที่ใช้ในการควบคุมพลังงานแสงอาทิตย์มีอยู่สามเทคโนโลยีด้วย ได้แก่

โฟโตวอลเทอิก (PV)

เกี่ยวข้องกับการใช้อุปกรณ์ (ลองนึกถึงแผงโซลาร์) เพื่อดูดซับแสงอาทิตย์และเปลี่ยนเป็นพลังงานไฟฟ้า อุปกรณ์เหล่านี้เรียกว่าโซลาร์เซลล์และเชื่อมต่อกับหน่วยขนาดใหญ่ที่ช่วยสร้างพลังงานได้

พลังงานแสงอาทิตย์แบบรวมแสง (CSP)

รวบรวมพลังงานจากดวงอาทิตย์เพื่อสร้างความร้อน ซึ่งจะถูกนำมาใช้เพื่อสร้างกระแสไฟฟ้า เทคโนโลยีนี้ใช้กระจกเพื่อโฟกัสหรือ “รวม” พลังงานแสง

การทําความร้อนและการทําความเย็นด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ (SHC)

รวบรวมพลังงานจากดวงอาทิตย์และนำมาใช้เพื่อทําความร้อนและทําความเย็นให้แก่บ้านและธุรกิจต่างๆ เทคโนโลยีนี้ใช้เครื่องรวบรวมพลังงานแสงอาทิตย์ ท่อหุ้มฉนวน และถังเก็บน้ำร้อน

ส่วนประกอบการจัดเก็บพลังงานแสงอาทิตย์

หลังจากที่มีการควบคุมพลังงานแสงอาทิตย์ในขั้นตอนนี้แล้ว จะมีส่วนประกอบพื้นฐานหลายอย่างที่จําเป็นในการจัดเก็บพลังงานแสงอาทิตย์  ตาม Green Building Elements ได้แก่

แบตเตอรี่

แกนหลักของระบบจัดเก็บพลังงาน แบตเตอรี่ที่ใช้ทั่วไปสองชนิดคือ ลิเธียม-นิกเกิล-แมงกานีส-โคบอล และ ลิเธียม-เหล็ก-ฟอสเฟต

แผงย่อยโหลดที่สำคัญ

ช่วยให้คุณตัดสินใจว่าจะจ่ายไฟให้กับอุปกรณ์สำคัญใดบ้างในกรณีที่ไฟดับ

แผงโซลาร์

ใช้เพื่อชาร์จแบตเตอรี่ใหม่ ชนิดแผงโซลาร์ ได้แก่ ฟิล์มบาง, PERC, โพลีคริสตัลไลน์ และโมโนคริสตัลไลน์

แผงโซลาร์ทำมาจากอะไร แผงโซลาร์ที่แกนหลักมักจะประกอบด้วยซิลิคอน ซึ่งเป็นวัสดุเซมิคอนดักเตอร์ที่พบบ่อยที่สุดในเซลล์ PV เช่น ตัวเรือนกระจก กรอบโลหะ และฮาร์ดแวร์อื่นๆ เพื่อยึดแผงไว้ด้วยกันและสนับสนุนการทํางานของแผงโซลาร์

อินเวอร์เตอร์

ใช้เพื่อแปลงกระแสสลับเป็นกระแสตรง (แผงโซลาร์และแบตเตอรี่จะแปลงกระแสไฟโดยตรงเป็นกระแสสลับ)

การจัดเก็บพลังงานแสงอาทิตย์

ตาม Green Building Elements มีสามวิธีในการจัดเก็บพลังงานแสงอาทิตย์ ได้แก่

กําลังสร้างแบตเตอรี่

การจัดเก็บในแบตเตอรี่

โดยทั่วไปแล้ว จะใช้แบตเตอรี่ลิเธียมไอออนในการจัดเก็บพลังงานแสงอาทิตย์

โรงงานพลังงานสําหรับการจัดเก็บพลังงานกล

การจัดเก็บพลังงานกล

อากาศอัด (อัดให้อยู่ในภาชนะ เช่น ถัง และจ่ายตามความจําเป็น), ไฟฟ้าพลังน้ำแบบสูบ (น้ำที่ผลักผ่านเครื่องกําเนิดไฟฟ้ากังหันเพื่อสร้างพลังงานเมื่อต้องการ) และล้อตุนกำลัง (พลังงานส่วนเกินที่ใช้ในการจ่ายไฟเมื่อจําเป็น) คือระบบการจัดเก็บชนิดนี้ทั้งสามรูปแบบ

ภาพมุมสูงของอาคารพลังงานทรงกระบอกขนาดใหญ่

การจัดเก็บความร้อน

ใช้เกลือหลอมเหลวและน้ำในถังหุ้มฉนวนเพื่อเก็บพลังงาน

นอกจากนี้ยังมี “การจัดเก็บแบบเสมือน” ด้วย ซึ่งเป็นกระบวนการที่คุณทำความร้อนหรือทําความเย็นให้กับอาคาร ก่อนที่จะมีความต้องการในการใช้ไฟฟ้าพุ่งขึ้น อาคารจะจัดเก็บพลังงานนี้ไว้เมื่อจําเป็นต้องใช้

ดูรายการคําศัพท์และคําจํากัดความทั้งหมดได้ที่ อภิธานศัพท์เกี่ยวกับพลังงานแสงอาทิตย์ ของ กระทรวงพลังงานสหรัฐอเมริกา

ข้อดีของพลังงานแสงอาทิตย์

แล้วข้อดีของพลังงานแสงอาทิตย์มีอะไรบ้าง มีอยู่พอสมควร ไม่ว่าจะเป็นความสมบูรณ์ด้านสิ่งแวดล้อม โอกาสในการทํางาน และเครดิตภาษี ภาพรวมสิทธิประโยชน์หลักๆ บางประการ ได้แก่

ดีกับสภาพแวดล้อมมากกว่าแหล่งพลังงานแบบดั้งเดิม

โลกอาจเป็นสิ่งแรกที่คํานึงถึงเมื่อพิจารณาถึงประโยชน์ของพลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานหมุนเวียน เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ ช่วยให้ไม่ต้องพึ่งพาเชื้อเพลิงฟอสซิล ลดคาร์บอนฟุตพรินต์ และให้พลังงานไฟฟ้าโดยไม่ทําให้เกิดมลพิษ

ค่าใช้จ่ายในการบํารุงรักษาพลังงานแสงอาทิตย์นั้นก็ดีขึ้น

แม้ว่าการติดตั้งครั้งแรกอาจมีค่าใช้จ่ายสูงสําหรับบางครัวเรือน แต่ค่าใช้จ่ายด้านการบํารุงรักษานั้นลดลงในช่วงหลายปีที่ผ่านมานี้ โดยเฉพาะในทศวรรษที่ผ่านมา ค่าใช้จ่ายในการติดตั้งพลังงานแสงอาทิตย์นั้นลดลงถึง 60 เปอร์เซ็นต์ (อย่างไรก็ตาม ค่าใช้จ่ายอาจขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ เช่น ภูมิภาคและข้อจํากัดของห่วงโซ่อุปทาน)

มีข้อได้เปรียบด้านภาษีสำหรับระบบพลังงานแสงอาทิตย์

การเปลี่ยนไปใช้พลังงานแสงอาทิตย์อาจเป็นเรื่องดีสำหรับเงินในกระเป๋าของคุณ (ถึงแม้จะเป็นเรื่องในอนาคตก็ตาม) ตัวอย่างเช่น รัฐบาลสหรัฐฯ มีนโยบาย เครดิตภาษีแสงอาทิตย์ของรัฐบาลกลาง  ซึ่งสามารถนำไปใช้กับค่าใช้จ่ายในการติดตั้งระบบ PV แสงอาทิตย์ได้ รัฐบาลระดับมลรัฐและระดับท้องถิ่นอื่นๆ อาจมีนโยบายเพื่อช่วยชดเชยราคาที่สูงขึ้นได้

เทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์มีการพัฒนา

เทคโนโลยีอุปกรณ์และการจัดเก็บได้รับการปรับปรุงอย่างมากในช่วงหลายปีที่ผ่านมา ปัจจุบัน แผงโซลาร์เซลล์ผลิตพลังงานได้นานขึ้น (โดยมีประสิทธิภาพประมาณ 20 เปอร์เซ็นต์) และอยู่ได้นานถึง 30 ปี

มีข้อดีมากมายในการใช้พลังงานแสงอาทิตย์สําหรับบ้านหรือธุรกิจ อย่างไรก็ตาม แหล่งพลังงานนี้ไม่ได้ไม่มีข้อจํากัดเสียทีเดียว ข้อเสียบางอย่างในการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ได้แก่

  • มลพิษยังคงเป็นปัญหา ในขณะที่พลังงานแสงอาทิตย์คือโซลูชันที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากกว่าการเผาไหม้เชื้อเพลิงฟอสซิล แต่สารเคมีและวัสดุบางอย่างที่ใช้ใน กระบวนการผลิตเซลล์ PV  นั้นกลับก่อให้เกิดขยะอันตราย
  • อาจมีราคาแพงในการติดตั้ง แม้ว่าพลังงานแสงอาทิตย์ช่วยคุณประหยัดเงินได้ แต่การติดตั้งครั้งแรกและอุปกรณ์เบื้องต้นอาจมีราคาแพง
  • มีข้อจํากัดด้านการใช้งาน เนื่องจากพลังงานถูกสร้างขึ้นตอนดวงอาทิตย์ขึ้น ฉะนั้นบางช่วงเวลาและบางสภาพอากาศ (เช่นท้องฟ้ามีเมฆ) ก็ไม่เหมาะสมกับพลังงานแสงอาทิตย์
  • ผลกระทบด้านสิ่งแวดล้อมอื่นๆ การใช้น้ำ การใช้ที่ดิน และการสูญเสียถิ่นที่อยู่ที่อาจเกิดขึ้น ล้วนเป็นข้อควรพิจารณาในการปรับขนาดระบบพลังงานแสงอาทิตย์

อย่างไรก็ตาม พลังงานแสงอาทิตย์ก็ช่วยสร้างโอกาสที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมให้กับอุตสาหกรรมและธุรกิจ ตัวอย่างเช่น  เครื่องมือและแอปที่เกิดขึ้นใหม่ต่างๆ  สามารถช่วยให้องค์กรแสดงภาพการจําลองของแหล่งเก็บน้ำ เพื่อเพิ่มอัตราการเจาะและปรับปรุงโครงข่ายไฟฟ้าสําหรับแหล่งพลังงานแบบกระจายตัวเพื่อลดต้นทุนและขยายความเป็นไปได้ นอกจากนี้ยังมีความก้าวหน้าอันยอดเยี่ยมที่ใช้ การประมวลผลแบบควอนตัมสําหรับการปรับประสิทธิภาพการสร้างพลังงานให้เหมาะสม

วิธีนำพลังงานแสงอาทิตย์ไปใช้

ก่อนที่คุณจะใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ให้ลองค้นหาข้อมูลดูก่อน คุณจะต้องคํานวณค่าใช้จ่ายสําหรับพื้นที่ของคุณ ตรวจสอบเงินคืนและเครดิตภาษีที่มีให้ สํารวจระบบต่างๆ และดูรีวิวสําหรับบริษัทติดตั้งระบบ ในทางเทคนิคแล้ว คุณสามารถติดตั้งแผงโซลาร์ด้วยตนเองได้ แต่จะต้องพิจารณาว่าเป็นตัวเลือกที่ดีที่สุดสําหรับคุณหรือไม่

หากคุณเป็นเจ้าของธุรกิจ คุณจะมีข้อควรพิจารณาหลายอย่างในการย้ายไปใช้พลังงานแสงอาทิตย์ รวมถึงสิ่งที่ใช้ไฟฟ้าในที่ทํางานของคุณด้วย (ระบบทําความเย็นและทำความร้อน เครื่องจักร อุปกรณ์ ฯลฯ) แม้ว่าในที่สุดคุณจะประหยัดต้นทุนได้เช่นเดียวกับครัวเรือน แต่ การเปลี่ยนมาใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ก็เป็นการลงทุนล่วงหน้าทั้งเวลาและเงิน อย่างไรก็ตาม มี โซลูชันพลังงาน IoT มากมายที่พร้อมช่วยคุณลดต้นทุนการดำเนินงานได้ พร้อมทั้งเพิ่มประสิทธิภาพอุปสงค์และอุปทานและติดตามตรวจสอบการบำรุงรักษาสินทรัพย์ด้วย

สําหรับการติดตั้งที่บ้าน คนส่วนใหญ่อาจพิจารณาว่าราคาที่สูงนั้นเป็นอุปสรรคที่ใหญ่ที่สุดในการเริ่มใช้พลังงานแสงอาทิตย์ ตัวอย่างเช่น ค่าใช้จ่ายสําหรับระบบแผงโซลาร์ในบ้านขนาดโดยเฉลี่ยในสหรัฐอเมริกา หลังหักเครดิตภาษีพลังงานแสงอาทิตย์แล้ว มีตั้งแต่ 11,144 ถึง 14,696 ดอลลาร์สหรัฐฯ และประมาณ 200 ถึง 250 ดอลลาร์สหรัฐฯ ต่อแผงสําหรับการติดตั้งด้วยตนเอง  ตามสำนักกิจการผู้บริโภค บางแห่งก็บอกค่าใช้จ่ายมีมากกว่านั้น ระหว่าง 10,000 ถึง 25,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ในสหรัฐอเมริกา นอกจากนี้ยังมี “ค่าใช้จ่ายแยกย่อย” ที่ต้องพิจารณาอีกด้วย เช่น การขออนุญาตและค่าแรงในการติดตั้ง คุณสามารถเลือกเช่าแผงโซลาร์ได้ ซึ่งหมายความว่าคุณไม่จําเป็นต้องจ่ายเงินไปกับการติดตั้ง การบํารุงรักษา หรือการซ่อมแซม แต่ก็มีข้อดีและข้อเสียที่ต้องพิจารณา

ราคาล่วงหน้านั้นอาจสูงชันเกินไปสําหรับหลายๆ ครัวเรือน และอาจต้องรอพักใหญ่ถึงจะคืนทุน (โดยเฉลี่ยแล้ว การลงทุนนี้จะคืนทุนภายใน 7 ถึง 12 ปี) แต่เงินที่ประหยัดลงไปได้นั้นก็มากมายเช่นกัน: พลังงานแสงอาทิตย์ช่วยประหยัดค่าไฟต่อปีของผู้อยู่อาศัยในสหรัฐฯ ได้ระหว่าง 600 ถึง 2,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ ตาม HomeGuide นอกจากนี้ การติดตั้งบางครั้งก็มีค่าใช้จ่ายน้อยกว่าตัวเลขที่แสดง ปัจจัยหลักสามอย่างที่จะมีผลต่อค่าใช้จ่าย ได้แก่ ขนาดบ้านของคุณ (อาคารขนาดใหญ่มักจะมีราคาสูงกว่า) ระดับการใช้พลังงานของคุณ และชนิดเทคโนโลยีที่คุณเลือกใช้สําหรับระบบของคุณ เว็บไซต์ต่างๆ เช่น  การประมาณพลังงานแสงอาทิตย์ ให้คุณกรอกรหัสไปรษณีย์หรือเลือกตําแหน่งที่ตั้งบนแผนที่เสมือน เพื่อระบุค่าใช้จ่ายในการติดตั้งแผงโซลาร์บนบ้านของคุณ

และคุณยังสามารถเลือกที่จะใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในชีวิตประจําวันของคุณในรูปแบบต่างๆ ได้ด้วย ไม่ว่าจะเล็กหรือใหญ่แค่ไหน คุณไม่จําเป็นต้องใช้เงินจํานวนมากเพื่อเริ่มใช้งานพลังงานแสงอาทิตย์ ตัวอย่างเช่น คุณสามารถซื้อเคสพลังงานแสงอาทิตย์สําหรับสมาร์ทโฟน ไฟฉายพลังงานแสงอาทิตย์สําหรับชุดอุปกรณ์ฉุกเฉินในรถยนต์ หรือเตาพลังงานแสงอาทิตย์สําหรับทริปตั้งแคมป์ครั้งต่อไป บางครั้งก็มีราคาไม่กิน 100 ดอลลาร์สหรัฐฯ นอกจากแผงโซลาร์แล้ว ก็ยังมีตัวเลือกอื่นๆ ในการนำพลังงานแสงอาทิตย์มาใช้ในบ้านคุณด้วย เจ้าของบ้านสามารถใช้อุปกรณ์พลังงานแสงอาทิตย์เพื่ออุ่นสระน้ำและติดตั้งไฟพลังงานแสงอาทิตย์เพื่อเพิ่มความสว่างให้กับสวนหลังบ้านหรือลานบ้านในเวลากลางคืน และยังสามารถใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในชีวิตการทํางานของคุณได้เช่นกัน อยากทํางานจากระยะไกล ไม่ต้องเข้าบริษัทใช่ไหม พกที่ชาร์จแผงโซลาร์แบบพกพาไว้สำหรับจ่ายไฟให้กับแล็ปท็อป ระหว่างที่คุณทํางานข้างนอก ณ ร้านกาแฟแห่งหนึ่ง

อนาคตของพลังงานแสงอาทิตย์

อนาคตของพลังงานแสงอาทิตย์นั้นสว่างสดใส (ตั้งใจเล่นสำนวน) เพราะว่า:

และสุดท้าย อาชีพในอุตสาหกรรมพลังงานหมุนเวียนนั้นกําลังเฟื่องตัว อุตสาหกรรมภาคส่วนนี้จ้างคนมากกว่า 3 ล้านคนในสหรัฐฯ และกว่า 11 ล้านคนทั่วโลก  ตามสถาบันการศึกษาด้านสิ่งแวดล้อมและพลังงาน จํานวนตำแหน่งงานในอุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์นั้นแตกต่างกันไปทั่วทั้งสหรัฐฯ ตัวอย่างเช่น มีตำแหน่งงานในอุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์ถึง 211 ตำแหน่งในนอร์ทดาโคตา และมีมากกว่า 10,000 ตำแหน่งในเท็กซัส ตามสมาคมอุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์ (SEIA) แต่ถึงอย่างไร อุตสาหกรรมพลังงานแสงอาทิตย์ก็ประกอบไปด้วยวิศวกร นักวิจัย ผู้ปฏิบัติงานในโรงงานพลังงานแสงอาทิตย์ ผู้ติดตั้งอุปกรณ์ และผู้เชี่ยวชาญอื่นๆ มากมายในงานทั่วประเทศ

หลายบริษัทต่างพิจารณาจะใช้พลังงานแสงอาทิตย์และพลังงานหมุนเวียนอื่นๆ บริษัทเทคโนโลยีขนาดใหญ่ได้ประกาศโครงการริเริ่มด้านความรับผิดชอบต่อสังคมและเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมสําหรับองค์กรของตน ตัวอย่างเช่น  Microsoft ได้ให้คํามั่นว่าจะเป็นทำให้น้ำเป็นบวกและคาร์บอนติดลบภายในปี 2030 ผู้บริโภคต่างเริ่มให้ความใส่ใจเกี่ยวกับความรับผิดชอบต่อสังคมของบริษัทมากขึ้นเรื่อยๆ เช่นกัน และคาดหวังว่าหลายๆ องค์กรจะพัฒนานโยบายเกี่ยวกับความมุ่งมั่นต่อเรื่องความยั่งยืนในอนาคตอันใกล้นี้

เร่งการเดินทางสู่ความยั่งยืนของคุณ

ไม่ว่าคุณจะอยู่ที่จุดใดบนเส้นทางสู่การปล่อยก๊าซสุทธิเป็นศูนย์ก็ตาม Microsoft Cloud for Sustainability ก็สามารถช่วยให้คุณเร่งความคืบหน้าและแปลงโฉมธุรกิจของคุณด้วยความสามารถด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และการกำกับดูแล (ESG)

คำถามที่ถามบ่อย

  • พลังงานแสงอาทิตย์คือพลังงานจากดวงอาทิตย์ที่สามารถสร้างไฟฟ้าได้ ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานหมุนเวียน หมายความสามารถหมุนเวียนและไม่หมดไปหลังจากการใช้งานครั้งเดียว พลังงานแสงอาทิตย์มีรูปแบบการใช้งานที่หลากหลาย และสามารถนำไปใช้เพื่อจ่ายไฟให้อาคาร ทำน้ำร้อน ชาร์จอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์และอุปกรณ์ไฟฟ้าต่างๆ และอื่นๆ อีกมากมาย พลังงานแสงอาทิตย์ยังเป็นที่รู้จักกันในชื่อพลังแสงอาทิตย์หรือรังสีแสงอาทิตย์ด้วย เรียนรู้เพิ่มเติม >
  • พลังงานแสงอาทิตย์สามารถใช้ได้ทั้งภายในบ้านและเชิงพาณิชย์ ตัวอย่างเช่น ในระดับที่พักอาศัย สามารถจ่ายไฟฟ้า ทำน้ำร้อน ทําความร้อน และทำความเย็นให้กับบ้าน บางธุรกิจใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในการดําเนินสํานักงาน โรงงาน หรือฟาร์มของตน นอกจากนี้ รัฐบาลยังสามารถนำพลังงานแสงอาทิตย์ไปใช้ขับเคลื่อนสาธารณูปโภคและสถานประกอบการต่างๆ ได้ด้วย เช่น ไฟถนน ลานจอด การขนส่ง และโรงเรียน
  • การใช้พลังงานแสงอาทิตย์มีข้อดีหลายอย่าง นอกจากจะใช้หมุนเวียนได้เหลือเฟือแล้ว พลังงานแสงอาทิตย์ยังช่วยลดปริมาณคาร์บอนฟุตพรินต์ได้อีกด้วย เนื่องจากการสร้างพลังงานแสงอาทิตย์มีการปล่อยมลพิษเป็นศูนย์ และพลังงานแสงอาทิตย์ยังคุ้มค่าใช้จ่ายด้วย ตัวอย่างเช่น ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีช่วยทําให้ระบบพลังงานแสงอาทิตย์มีราคาย่อมเยามากขึ้น และเมื่อใช้ไปสักพัก ระบบเหล่านี้ช่วยลดค่าสาธารณูปโภคลงได้อย่างมาก ยิ่งไปกว่านั้น พลังงานแสงอาทิตย์สามารถปรับใช้ตามต้องการได้ด้วย จะใช้กับบ้านหลังเดียวหรือจะใช้กับทั้งชุมชนก็ได้ และสุดท้าย เราสามารถติดตั้งระบบพลังงานแสงอาทิตย์ได้ในเกือบทุกแห่ง แม้แต่พื้นที่ระยะไกล ซึ่งหมายความว่าสามารถจัดหาพลังงานในสถานที่ที่ขาดการเข้าถึงไฟฟ้าได้

     

  • อย่างแรก เทคโนโลยีหลักที่ใช้เพื่อควบคุมพลังงานแสงอาทิตย์มีด้วยกันสามเทคโนโลยี ได้แก่ โฟโตวอลเทอิก (PV), พลังงานแสงอาทิตย์แบบรวมแสง (CSP) และการทําความร้อนและการทําความเย็นด้วยพลังงานแสงอาทิตย์ (SHC) เมื่อควบคุมพลังงานแสงอาทิตย์ได้แล้ว คุณจําเป็นต้องมีส่วนประกอบพื้นฐานบางอย่างในการจัดเก็บ ได้แก่ แบตเตอรี่ แผงโซลาร์ แผงย่อยโหลดที่สําคัญ และอินเวอร์เตอร์ และมีสามวิธีในการจัดเก็บพลังงานแสงอาทิตย์ ได้แก่ การจัดเก็บในแบตเตอรี่ การจัดเก็บพลังงานกล และการจัดเก็บพลังงานความร้อน กระบวนการนี้อาจแตกต่างกันไป ขึ้นอยู่กับความต้องการของคุณและสิ่งที่จะใช้พลังงานแสงอาทิตย์ (กล่าวคือ หากต้องการจ่ายไฟให้บ้านชานเมืองขนาด 1,200 ตารางฟุตกับอาคารขนาดใหญ่โดยไม่ใช้ระบบสาธารณูปโภค)
  • ค่าใช้จ่ายเริ่มต้นในการติดตั้งในสหรัฐฯ นั้นมีหลากหลาย ตั้งแต่ 10,000-25,000 ดอลลาร์สหรัฐฯ สําหรับบ้านพักอาศัย ซึ่งอาจมีราคาแพงสําหรับผู้บริโภคส่วนใหญ่ อย่างไรก็ตาม บางประเทศมีนโยบายภาครัฐที่ช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายในการเริ่มต้นใช้งานพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งอาจรวมถึงทรัพยากรในการสร้างระบบที่คุ้มค่าหรือวิธีการยื่นขอเครดิตภาษี อาจใช้เวลาพอสมควร (ประมาณหนึ่งทศวรรษ) แต่คุณจะได้คืนทุนจากระบบพลังงานแสงอาทิตย์และเห็นเงินที่ประหยัดไปได้ในบิลค่าไฟ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปัจจัยต่างๆ ด้วย เช่น ค่าใช่จ่ายของระบบพลังงานแสงอาทิตย์และขนาดของตัวอาคาร เงินค่าไฟที่คุณประหยัดได้นั้นอาจมีตั้งแต่ไม่กี่ร้อยดอลลาร์เป็นหลายพันดอลลาร์ต่อปี
  • พลังงานแสงอาทิตย์เป็นหนึ่งในรูปแบบพลังงานที่ยั่งยืนที่สุดที่มีอยู่ในปัจจุบัน ไม่เพียงแค่ใช้หมุนเวียนได้เหลือเฟือเท่านั้น แต่ยังให้พลังงานเพียงพอในแต่ละวันเพื่อตอบสนองความต้องการใช้พลังงานทั่วโลกในปัจจุบันของเราตลอดทั้งปีด้วย ซึ่งสามารถสร้างได้อย่างประหยัดและสำหรับการใช้งานขนาดใหญ่ การสร้างพลังงานแสงอาทิตย์ไม่มีการปล่อยก๊าซเรือนกระจก มีค่าใช้จ่ายในการบํารุงรักษาน้อยหากติดตั้งแผงโซลาร์ และให้พลังงานที่ปราศจากความเสี่ยงต่อการทำให้น้ำและอากาศปนเปื้อน

ติดตาม Microsoft